กลไกความฝัน
ฝัน เป็นลำดับภาพ ความคิด อารมณ์ และการรับรู้ที่เกิดขึ้นนอกเหนืออำนาจจิตใจในจิตระหว่างช่วงที่แน่นอนของการหลับ ยังไม่เข้าใจเนื้อหาและความมุ่งหมายของฝันนั้นแน่ชัด
ฝันเกิดขึ้นในการหลับระยะ REM เป็นหลัก เมื่อกิจกรรมของสมองเพิ่มสูงขึ้นเสมือนว่ากำลังตื่นอยู่ การหลับระยะ REM สามารถบอกได้จากการกลอกไปมาของลูกตาขณะหลับ ทั้งนี้ ฝันสามารถเกิดได้ในการหลับขั้นอื่น แต่ฝันเหล่านั้นมีแนวโน้มสมจริงหรือผู้ฝันจำได้น้อยกว่ามาก
ฝันกินระยะเวลาตั้งแต่ไม่กี่วินาทีไปจนถึงยี่สิบนาที บุคคลมักจำฝันได้มากกว่าเมื่อตื่นขึ้นหากฝันในระยะ REM โดยเฉลี่ย บุคคลมีฝัน 3 ถึง 5 ฝันต่อคืน ฝันมีแนวโน้มนานขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ระหว่างการหลับ 8 ชั่วโมง บุคคลจะใช้เวลากับการฝันสองชั่วโมง
มีผู้มองว่า ฝันเชื่อมโยงกับจิตไร้สำนึก โดยมีตั้งแต่ปกติและสามัญไปจนถึงเหนือจริงหรือแปลกประหลาดเกิน ฝันสามารถมีได้หลายอารมณ์ เช่น กลัว ตื่นเต้น สนุกสนาน เศร้าโศก ผจญภัยหรือเกี่ยวกับเพศ เหตุการณ์ในฝันโดยทั่วไปอยู่นอกเหนือการควบคุมของผู้ฝัน ยกเว้น lucid dream ที่ผู้ฝันรู้สึกตัว ฝันบางครั้งได้สร้างความคิดริเริ่มแก่บุคคลหรือให้ความรู้สึกถึงแรงบันดาลใจ
จากการวิจัยพบว่าสัตว์ก็มีฝันเช่นเดียวกับมนุษย์ โดยเมื่อสัตว์หลับอยู่ในสถานะ REM สัตว์จะมีฝันเกิดขึ้น สัตว์ที่มีระยะของสถานะ REM นานที่สุดคือตัว อาร์มาดิลโล ที่มีลักษณะคล้ายตัวตุ่น สัตว์ที่มีฝันบ่อยที่สุดคือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและสัตว์ประเภทนกจากการทดสอบฝันของแมวพบว่ามันมักจะฝันถึงการล่าเหยื่อโดยอ้างอิงจากลักษณะการเคลื่อนไหวของขาและร่างกาย ในขณะที่สุนัขได้มีการเคลื่อนไหวของช่วงขาในลักษณะของการวิ่งรวมถึงการเห่าในขณะหลับ
ชาวกรีกและโรมันโบราณเชื่อกันว่า ฝันคือสารจากพระเจ้า ชาวอียิปต์โบราณ เชื่อว่าผู้ที่เข้าใจฝัน คือบุคคลพิเศษ ในประเทศจีน เชื่อกันว่าฝัน คือการผละวิญญาณจากร่างหนึ่ง ไปสู่อีกร่างในโลกแห่งฝัน ที่ซึ่งร่างนั้นเพิ่งตื่น ชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันบางชนเผ่า และชาวเม็กซิกันที่เจริญแล้ว เชื่อว่า ฝันคืออีกโลกหนึ่ง ที่เราไปเยือนในยามหลับ และในยุโรป ผู้คนเชื่อกันว่า ฝันคือสิ่งชั่วร้าย และอาจชักนำให้คนหันไปทำสิ่งเลวร้ายได้
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9D%E0%B8%B1%E0%B8%99
Sigmund Freud ( ซิกมันด์ ฟรอยด์ ) ประสาทแพทย์ชาวออสเตรีย ผู้เป็นที่รู้จักในฐานะบิดาแห่งจิตวิเคราะห์ กล่าวว่า ความฝัน เป็นสิ่งที่จะทำให้เราเข้าใจกลไกของสมอง เป็นหนทางที่จะช่วยแก้ไขปัญหา และเข้าใจเรื่องความเครียดหรือความวิตกกังวลดังนั้น ความฝันน่าจะมีความหมายว่า การแสดงออกของความรู้สึก ความนึกคิด และเรื่องราวต่างๆที่เก็บสะสมและผ่านเข้ามาในสมอง เรามาดูกันดีกว่าว่าความฝันบอกอะไรบ้าง
1.กลิ่นมี่อิทธิพลต่อความฝัน ถูกหรือผิด คำตอบคือถูก นักวิจัยค้นพบว่า หากคนที่นอนหลับในห้องที่มีกลิ่นกุหลาบจะฝันดีมากกว่าคนที่นอนในห้องที่มีกลิ่นไข่เน่า หรือกลิ่นขยะที่มีกลิ่นเหม็น ดังนั้นกลิ่นมีความสัมพันธ์ต่อสมองที่เชื่อมโยงกับความฝันอย่างแน่นอน2. ความฝันช่วยให้สมองทำงานได้ดีด้านความจำ ถูกหรือผิด คำตอบคือถูก ในขณะที่นักวิจัยหลายคนเชื่อว่าความฝันมีความสัมพันธ์กับสมอง และก็มีอีกหลายคนเชื่อว่า ความฝันช่วยด้านความจำ การแก้ปัญหา และช่วยเรื่องการจัดการกับอารมณ์ต่างๆด้วย
3. ยาบางชนิดทำให้ฝันร้าย ถูกหรือผิด คำตอบคือถูก ยาบางชนิดมีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ส่งผลกระทบคือฝันร้ายได้ เช่นยาระงับประสาท หรือยานอนหลับบางชนิด
4. มีรายงานว่าผู้หญิงฝันร้ายมากกว่าผู้ชาย ถูกหรือผิด คำตอบคือถูก จากการศึกษาเรื่องการนอนไม่หลับพบว่าผู้หญิงดูเหมือนว่ามีฝันร้ายที่น่ากลัวกว่าผู้ชาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตอบไม่ได้ว่าเป็นเพราะผู้หญิงมีความสามารถในการจำเรื่องความฝันได้ดีกว่าผู้ชายหรือมีความฝันร้ายมากกว่ากันแน่
5. เป็นการง่ายที่จะทำนายฝัน ถูกหรือผิด คำตอบคือผิด ความฝันบางความฝันอาจบอกตรงๆ ว่าเรามีความรู้สึกต่อคนบางคนอย่างไรหรือมีความเครียดอย่างไร แต่บางความฝันอาจซับซ้อนมากกว่า ทำให้บอกไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะมีตำราทำนายฝันออกมามากมาย แต่ก็อาจไม่สามารถบอกได้ ลองถามตัวเองซิว่าความฝันของเราบอกอะไรกับเรา
6. เราสามารถมีความจำที่ดีขึ้นเมื่อเราจำความฝันได้ ถูกหรือผิด คำตอบคือถูก ไม่เฉพาะเราเท่านั้นที่อาจลืมความฝันในเวลาเช้า หากเราจำความฝันได้ในตอนเช้า ให้เราจดบันทึกความฝันนั้นไว้ และหากเราจำไม่ได้ในตอนตื่นนอน บางครั้งในระหว่างวันเราอาจจะจำขึ้นมาได้ก็เป็นได้ ให้เราจดบันทึกไว้
7. คนที่มาจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกันจะมีความฝันที่แตกต่างกัน ถูกหรือผิด คำตอบคือถูก จากการวิจัยพบว่าคนที่มาจากวัฒนธรรมเดียวกันจะมีความฝันเหมือนๆกัน แต่คนที่มาจากพื้นเพที่แตกต่างกันก็จะมีความฝันที่แตกต่างกันด้วย
8. คนบางคนไม่เคยฝัน ถูกหรือผิด คำตอบคือผิด ทุกคนต่างฝันด้วยกันทั้งนั้น แต่จะจำได้หรือไม่ได้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะความฝันอาจเลือนรางไปในตอนเช้า
9. คนที่เกิดมาตาบอดจะไม่มีความฝันที่เป็นภาพ ถูกหรือผิด คำตอบคือถูก เพราะคนที่ตาบอดแต่กำเนิดจะไม่เคยเห็นภาพ ดังนั้นจึงไม่ฝันเป็นภาพ แต่บางคนที่ตาบอดหลังจากที่เกิดมาช่วงหนึ่งของชีวิต จะสามารถฝันเป็นภาพได้
10. เราจะฝันในช่วงเวลาที่หลับๆตื่นๆเท่านั้น ถูกหรือผิด คำตอบคือผิด ในช่วงเวลาที่เรางีบหลับ เรากำลังอยู่ในช่วงเวลา 2 ระดับพื้นฐานใหญ่ๆคือ ช่วง REM ( Rapid Eye Movement)คือช่วงที่ตาเคลื่อนไหวไปมาใต้เปลือกตา และช่วง NON REM คือช่วงเวลาที่หลับสนิท ความฝันจะเกิดขึ้นในทั้งสองช่วงนี้ จากการศึกษาพบว่าสมองของคนที่อยู่ในช่วงหลับๆตื่นๆจะมีการทำงานที่มากกว่าคนที่หลับสนิท
คนทุกคนต่างมีความฝันกันทั้งนั้น บางคนอาจฝันดีบางคนอาจฝันร้าย บางคนอาจจำได้หรือบางคนอาจจำไม่ได้ หลายคนพยายามทำความเข้าใจกับความฝัน ถึงขนาดมีตำราทำนายฝันทีขายดิบขายดี การทำงานของสมองที่ลึกลับซับซ้อน มีกลไกมากมายที่เรายังไม่สามารถค้นพบได้ เป็นความลับที่เรายังต้องศึกษาต่อไป เป็นกำลังใจให้ผู้อ่านทุกท่านนอนหลับฝันดีในคืนนี้
ที่มา : เว็บไซต์ผู้จัดการ โดย ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น